วัยเกษียณเป็นวัยแห่งการพักผ่อนและใช้ชีวิตอย่างอิสระ แต่สำหรับคนที่มีไฟในการทำงานอยู่ ก็สามารถหาอาชีพเสริมหรืออาชีพใหม่เพื่อต่อยอดประสบการณ์และสร้างรายได้ให้กับตัวเองได้ ซึ่งอาชีพสำหรับวัยเกษียณก็มีให้เลือกหลากหลาย ขึ้นอยู่กับความถนัด ความสนใจ และความพร้อมของแต่ละคน วันนี้ขอแนะนำตัวอย่างอาชีพที่สามารถทำเงินหลังเกษียณให้ผู้สูงอายุ 10 อาชีพ ดังนี
1.เพาะต้นไม้จำหน่าย
อาชีพเพาะต้นไม้จำหน่ายและปลูกผักในวัยเกษียณ เป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากเป็นอาชีพที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ชอบทำงานอิสระ มีเวลาว่าง และต้องการหารายได้เสริมหรือรายได้หลัก อาชีพปลูกผัก ปลูกต้นไม้ สามารถทำได้เองง่ายๆโดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มาก เช่น ปลูกผักสวนครัว ผักสลัดออแกนิค ไม้ดอก ไม้ยืนต้น หรือ ตะบองเพชร เป็นต้น
2. นักเขียน
อาชีพนักเขียนเป็นอาชีพที่ได้รับความนิยมสำหรับวัยเกษียณ เนื่องจากเป็นอาชีพที่อิสระ สามารถกำหนดเวลาและสถานที่ทำงานได้ตามต้องการ ไม่จำเป็นต้องทำงานหนักมากนัก และสามารถสร้างรายได้ที่ดีได้ เหมาะกับผู้ที่มีใจรักการเขียนโดยสามารถเริ่มต้นด้วยการเขียนบทความหรือบล็อกในเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องที่คุณชื่นชอบและมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆได้
3. อาจารย์ / วิทยากรพิเศษ / นักฝึกอบรม
หากคุณมีความชำนาณในสายวิชาที่เรียน หรืออาชีพที่ทำงานมาก่อน ก็สามารถนำทักษะความรู้ความสามารถดังกล่าวมา มาถ่ายทอดให้แก่ผู้อื่นได้ ในการเปิดสอนพิเศษหรือการอบรมนี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสอนแต่กับเด็กๆ เท่านั้น อาจจะสอนในผู้ใหญ่ด้วยก็ได้หรือสอนในคนที่คุณไม่เคยได้มีโอกาสสอน ถือเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ตัวเองเป็นอย่างดี
4. ปล่อยเช่าพื้นที่ / อสังหาริมทรัพย์
อาชีพปล่อยเช่าพื้นที่หรืออสังหาริมทรัพย์ อาชีพนี้เหมาะกับผู้ที่มีอสังหาริมทรัพย์อยู่แล้ว เช่น บ้าน ที่ดิน อาคารพาณิชย์ อพาร์ตเมนต์ เป็นต้น หรือบางทานอาจจะได้รับเงินทุนหลังเกษียณอายุเป็นจำนวนมาก ก็สามารถนำมาเลือกลงทุนซื้อ ห้องแถว หรือคอนโดปล่อยเช่าเพื่อลงทุนระยะยาวก็น่าสนใจเลยทีเดียว ทั้งนี้การลงทุนมีความเสี่ยง อาจจะต้องพิจารณา ทำเลที่ตั้งเป็นสิ่งสำคัญประกอบการพิจารณาด้วยนะคะ
5. Influencer/ YouTuber/ TikToker
ในยุคปัจจุบันที่โซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้คน อาชีพ Influencer/ YouTuber/ TikToker จึงได้รับความนิยมอย่างมาก อาชีพเหล่านี้เปิดโอกาสให้ใครก็ตามที่มีความสนใจและความสามารถสามารถแบ่งปันเรื่องราวหรือประสบการณ์ของตัวเองกับผู้อื่น และสร้างรายได้จากการทำคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มต่างๆ สำหรับผู้สูงอายุที่เกษียณจากการทำงานแล้ว อาชีพ Influencer/ YouTuber/ TikToker ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้และสร้างชื่อเสียงให้กับผู้สูงอายุได้ อีกทั้งยังเป็นอาชีพที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ให้กับผู้อื่น
6. เลือกลงทุนในหุ้นปันผล
เมื่อเกษียณอายุแล้วจะได้รับเงินบำเหน็จหรือเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือบางท่านอาจจะมีเงินเก็บจำนวนหนึ่งต้องการต่อยอดให้เพิ่มพูน สามารถนำมาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ พวกพันธบัตรรัฐบาล เงินฝากประจำ สลากออมสินหรือสลาก ธกส. ตราสารหนี้ หรือหากมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องการลงทุน ก็อาจจะเลือกการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นมาหน่อย แต่ได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น อย่างกองทุนหุ้นปันผล หรือลงทุนในหุ้นปันผล อาจจะสร้างรายได้มากมายหลังเกษียณให้กับคุณ แต่ทั้งนี้การลงทุนในตลาดหุ้นมีความเสี่ยงสูง ต้องรู้จักศึกษาข้อมูลอย่างดี มีความรอบคอบ ติดตามข่าวสารอยู่เสมอ
7. ทำอาหาร-ทำขนมขาย
เป็นอาชีพที่เหมาะกับผู้ที่มีฝีมือในการทำอาหารหรือขนม ชอบทำงานอิสระ มีเวลาว่าง และต้องการหารายได้เสริมหรือรายได้หลัก ซึ่งอาชีพทำอาหาร-ทำขนม ไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนสูง เพราะไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน อาจจะทำขายที่บ้าน อย่างเช่นในกลุ่มหมู่บ้าน หรือขายออนไลน์ทั้งกลุ่ม Facebook หรือ App Delivery ก็สามารถทำได้
8. ทำงานฝีมือ งานศิลปะ
อาชีพนี้เหมาะกับผู้ที่มีฝีมือหรือความชอบในงานฝีมือ งานศิลปะ ต้องการหารายได้เสริมหรือรายได้หลัก เช่น การทำดอกไม้ประดิษฐ์ งาน DIY การทำ Decoupage การถักโครเชต์ การถักนิตติ้ง การประดิษฐ์สมุดภาพ การวาดภาพสีน้ำ งานเย็บปักต่างๆ งานเย็บใบตองทำบายศรี เป็นต้น หากใครที่มีฝีมือทางด้านนี้ สามารถนำมาเป็นอาชีพในวัยเกษียณได้ ซึ่งการขายก็ทำได้หลายวิธี เช่น การขายตามตลาด อกบูธ หรือจะเป็นการขายผ่านอินเทอร์เน็ต โดยการใช้โซเชียลมีเดียในการโฆษณางานก็สามารถทำได้
9. ลงทุนตู้หยอดเหรียญ
การลงทุนกับตู้หยอดเหรียญก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจ สามารถนำเป็นเป็นอาชีพสร้างรายได้หลังเกษียณอายุ ซึ่งตู้หยอดเหรียญก็มีมากมายหลากหลายแฟรนไชส์ให้เลือกลงทุน เช่น ตู้กดน้ำเปล่า ตู้ซักผ้า-อบผ้าหยอดเหรียญ ตู้กดเครื่องดื่มหยอดเหรียญ ตู้อาหารหยอดเหรียญ ตู้เติมน้ำมัน เป็นต้น สิ่งสำคัญของการลงทุนตู้หยอดเหรียญคือต้องเริ่มต้นคิดคำนวณการลงทุนให้ดี พร้อมทั้งหาทำเลที่เหมาะในการวางตู้ และศึกษากลุ่มเป้าหมายอย่างละเอียด เพื่อให้การลงทุนนั้นคุ้มค่ามากที่สุด
10. พนักงานชั่วคราว / ลูกจ้างตามห้างสรรพสินค้า
ปัจจุบันภาครัฐได้เล็งเห็นถึงปัญหาสังคมผู้สูงอายุ จึงได้มีการส่งเสริมให้บริษัทหรือนิติบุคคลสามารถนำรายจ่ายที่เป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างงานผู้สูงอายุ มายกเว้นภาษีเงินได้โดยสามารถหักรายจ่ายได้ถึง 2 เท่า ในการจ้างผู้สูงอายุเข้าทำงานในสถานประกอบการ โดยสำหรับผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป จะได้รับค่าจ้างในอัตราไม่ต่ำกว่า 45 บาท/ชั่วโมง ต้องไม่ทำงานเกินกว่า 7 ชั่วโมง/วัน และต้องไม่เกิน 6 วัน/สัปดาห์ ตำแหน่งที่สามารถทำได้ส่วนมากมักเป็นแผนกจัดเรียงสินค้า แคชเชียร์ พนักงานขาย แม่บ้าน และส่วนบริการอื่นๆ
ที่มาของรูปภาพ https://www.freepik.com/