เมื่ออายุเพิ่มขึ้นเรื่อยๆภูมิคุ้มกันที่มีย่อมลดน้อยถอยลงตามกาลเวลา ดังนั้น ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ขึ้นไป ควรต้องได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และยังช่วยป้องกันการติดเชื้อและลดการรุนแรงของโรคได้ หากพบมีผู้สูงอายุที่บ้านที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ควรเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อได้รับคำแนะนำในการฉีดวัคซีนที่ถูกต้องนะคะ
สำหรับวัคซีนที่ผู้สูงอายุควรฉีด ทั้ง 5 วัคซีน มีดังนี้
1. วัคซีนไข้หวัดใหญ่
เนื่องจากไข้หวัดใหญ่ไม่ใช่ไข้หวัด หากเป็นแล้วมีอาการไอรุนแรง และปอดบวมได้ หรืออาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวควรอย่างยิ่งที่จะไปฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
2. วัคซีนโรคปอดอักเสบ
โรคนี้มักเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดอาการหูอักเสบ หูหนวก ไซนัสอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือติดเชื้อในกระแสเลือดได้ ผู้สูงอายุที่ควรฉีดควรมีอายุ 65 ปีขึ้นไป หรือแม้กระทั่งผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว อย่างเช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด โรคตับเรื้อรัง ไตวาย ภูมิคุ้มกันต่ำ มะเร็ง ตัดม้าม หรือผู้ที่ติดเชื้อ HIV และผู้ที่สูบบุหรี่จัดหรือดื่มสุรามา ควรฉีควัคซีนโรคปอดอักเสบเช่นกัน โดยฉีดวัคซีนชนิด 13 สายพันธ์ 1 เข็ม หลังจากนั้นอีก 1 ปี ควรฉีดชนิด 23 สายพันธ์ 1 เข็ม
3. วัคซีนบาดทะยัก คอตีบ ไอกรน
ทั้ง 3 โรคนี้เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หากเป็นแล้วมักส่งผลต่อระบบช่องคอ และทางเดินหายใจ ทางที่ดีเพื่อเป็นการป้องกันควรฉีดวัคซีน 1 เข็ม และกระตุ้นทุกๆ 10 ปี
4. วัคซีนโรคงูสวัด
โรคนี้เกิดจากไวรัส Varicella ไวรัสชนิดเดียวกับโรคอีสุกอีใส เมื่ออายุมากขึ้น มีภาวะเครียด ร่างกายอ่อนแอ อาจทำให้เป็นโรคงูสวัดได้ ซึ่งวัคซีนอาจจะไม่ได้กันโรค 100% แต่ก็ช่วยลดอาการปวดแสบปวดร้อนปลายประสาท และถ้าหากเป็นโรคจะมีความรุนแรงน้อยกว่า ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ควรฉีด 1 เข็ม และมีอายุได้นาน 8-10 ปี นับจากวันที่ฉีด
5. วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอและบี
โรคไวรัสตับอักเสบเอ ติดต่อได้จากการทานอาหารหรือน้ำที่มีสารปนเปื้อนเชื้อไวรัส ทำให้เกิดโรคตับอักเสบรุนแรงและตับวาย ส่วนโรคไวรัสตับอักเสบบี ติดจากสารคัดหลั่งทางร่างกาย ซึ่งผู้ติดเชื้ออาจจะไม่มีอาการหรือ ไปจนถึงตับอักเสบรุนแรง ดังนั้นควรตรวจเลือดหาภูมิก่อนฉีดวัคซีน หากไม่มีภูมิควรฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอและบี จำนวน 3 เข็ม โดยเข็มที่ 2 และ 3 ควรฉีดให้ห่างจากเข็มแรก 1 เดือน และ 6 เดือน ตามลำดับ
อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนสำหรับผู้สูงอายุทั้งหมดนี้ ลูกหลานควรต้องพาผู้สูงอายุมาพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อได้รับคำแนะนำในการฉีดวัคซีนที่ถูกต้องก่อนนะคะ
วัคซีนของแต่ละโรงพยาบาลอาจจะมีแพ็กเกจเป็นโปรแกรมสำหรับผู้สูงอายุที่มีราคาพิเศษ สามารถเช็คข้อมูลราคาที่ถูกต้องได้จากทางโรงพยาบาลเลยค่ะ
ขอบคุณที่มา : รพ. วิมุต https://www.vimut.com/