เมื่อเราอายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตคอลลาเจนลดลง ทำให้ผิวหนังเริ่มหย่อนคล้อย ข้อต่อเสื่อมสภาพ และกระดูกเปราะบางมากขึ้น คอลลาเจนจึงเป็นสารอาหารสำคัญที่สามารถช่วยชะลอความเสื่อมเหล่านี้ในผู้สูงอายุ แต่การเลือกคอลลาเจนให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับผู้สูงอายุนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะคอลลาเจนมีหลายประเภทที่ส่งผลดีต่อสุขภาพต่างกันไป
คอลลาเจนคืออะไร และทำไมผู้สูงอายุต้องการคอลลาเจนมากขึ้น?
คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่สำคัญในร่างกาย ซึ่งทำหน้าที่สร้างโครงสร้างผิวหนัง กระดูก ข้อต่อ และเส้นเลือด เมื่ออายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนของร่างกายจะลดลง ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น ข้อต่อเริ่มอักเสบหรือเสื่อมสภาพ ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ การเสริมคอลลาเจนจึงช่วยชดเชยส่วนที่ร่างกายขาด และส่งเสริมสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน
คอลลาเจนไทป์ไหนที่ผู้สูงวัยควรได้รับ
Collagen (คอลลาเจน) ที่พบในร่างกายปัจจุบัน มีประมาณมากกว่า 28 ชนิด ความแตกต่างของคอลลาเจนแต่ละชนิดขึ้นอยู่กับคุณสมบัติทางเคมีของโมเลกุล และส่วนที่ร่างกายนำไปใช้ แต่คอลลาเจนที่พบมากที่สุด 5 ชนิดได้แก่
- Collagen Type I : พบมากที่สุดในร่างกาย (ประมาณ 90%) มีบทบาทสำคัญในการสร้างกระดูก ผิวหนัง เส้นเอ็น และเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นสูง.
- Collagen Type II : พบในกระดูกอ่อน เช่น ข้อต่อและหมอนรองกระดูก ทำหน้าที่ช่วยบำรุงข้อต่อและลดการเสื่อมสภาพของกระดูกอ่อน.
- Collagen Type III : มักพบร่วมกับ Collagen Type I ในผิวหนัง กล้ามเนื้อ และหลอดเลือด ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น.
- Collagen Type IV : พบในชั้นเยื่อบุผิว มีบทบาทในการสร้างโครงสร้างของเซลล์และช่วยในการทำงานของระบบประสาท.
- Collagen Type V : พบในเซลล์ผิว รกเด็ก และเส้นผม ช่วยในการสร้างโครงสร้างของเนื้อเยื่อ
แต่ ในบรรดาคอลลาเจนทั้งหมด มีอยู่ 3 ชนิดหลักๆ ที่นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคือ Collagen Type I , Type II และ Type III
นอกจากนี้คอลลาเจน ยังแบ่งออกเป็น 4 ชนิดตามขนาดโมเลกุล ดังนี้
- Collagen Peptide : มีโมเลกุลใหญ่กว่า 300,000 ดาลตัน ทำให้ดูดซึมได้ช้า ทำให้เหมาะสำหรับการบำรุงทั่วไป
- Collagen Tripeptide เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนย่อยจนเหลือกรดอะมิโน 3 ตัวเรียงกัน มีขนาดโมเลกุลประมาณ 500-1,000 ดาลตัน สามารถดูดซึมได้ในระดับปานกลาง เหมาะสำหรับการเสริมสุขภาพทั่วไป
- Collagen Dipeptide : เป็นคอลลาเจนที่ผ่านกระบวนการย่อยโดยเอนไซม์ จนเหลือกรดอะมิโน 2 ตัวเรียงกันขนาดโมเลกุลประมาณ 200 ดาลตัน ดูดซึมได้เร็วกว่า 2 ชนิดแรก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์เร็ว
- Hydrolyzed Collagen เป็นคอลลาเจนผ่านการย่อยด้วยกรดจนได้ขนาดอนุภาคที่เล็กที่สุด มีประสิทธิภาพในการดูดซึมที่สูงที่สุด สามารถดูดซึมได้ดีถึง 3-4 เท่าของคอลลาเจนทั่วไป
แล้วคอลลาเจนชนิดไหน ที่เหมาะกับผู้สูงอายุกันล่ะ ?
สำหรับผู้สูงอายุแล้วคอลลาเจนที่เหมาะสมกับร่างกายและช่วงอายุ ควรจะเป็น Collagen type II หรือ คอลลาเจนไทป์ 2 ที่มีความสำคัญกับกระดูกข้อต่อนั่นเอง ขนาดโมเลกุลที่แนะนำคือ Collagen Dipeptide และ Hydrolyzed Collagen เนื่องจากมีขนาดโมเลกุลที่เล็ก ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงในการบำรุงผิวหนัง กระดูก ข้อต่อ และช่วยลดการเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน นอกจากนี้ คอลลาเจนชนิดนี้ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง ลดริ้วรอย และบรรเทาอาการปวดข้อ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเสริม เช่น วิตามิน C เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบำรุงสุขภาพด้วยค่ะ
ที่มารูปภาพ : https://www.freepik.com/