การวางแผนเก็บเงินก่อนเข้าสู่วัยเกษียณเป็นเรื่องจำเป็นที่เราควรใส่ใจ เพราะเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ค่าใช้จ่ายก็ยิ่งตามมามากขึ้น ทั้งค่ารักษาพยาบาล ค่าเบี้ยประกันสุขภาพ และค่าใช้จ่ายอื่นๆในกรณีที่ต้องดูแลตัวเองขึ้นมา การมีเงินออมไว้ใช้ยามเกษียณจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรวางแผนไว้ล่วงหน้าตั้งแต่วัยทำงาน เพื่อที่จะใช้ชีวิตในวัยเกษียณได้อย่างมีความสุขและไม่มีหนี้
วิธีเก็บเงินเข้าสู่วัยเกษียณมีอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ
1. ตั้งเป้าหมายเก็บเงินสำหรับวัยเกษียณ
ก่อนจะที่วางแผนเก็บเงินให้ได้ก่อนเกษียณอายุ 60 ปี ต้องรู้ก่อนว่าเก็บเงินเท่าไรถึงพอดี โดยสามารถคำนวณได้จาก ค่าใช้จ่ายแต่ละปีหลังเกษียณ x17 ปี ซึ่งตัวเลข 17 ปี เป็นอายุเฉลี่ยรวมทั้งประเทศ ซึ่งหากในครอบครัวมีประวัติสุขภาพร่างกายแข็งแรง สามารถเปลี่ยนเป็น 20 หรือ 25 ปี ได้
2. วางแผนเก็บเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป
สิ่งสำคัญในการวางแผนเก็บเงิน คือ การมีวินัยสม่ำเสมอ และสามารถเริ่มต้นเก็บเงินด้วยตัวเองง่ายๆ เช่น การใช้ตารางในการออมเงิน เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบหยอดเงินในกระปุกทุกวัน หรือทำบัญชีรายรับรายจ่ายและได้เห็นว่าสามารถตัดรายจ่ายที่ไม่สำคัญอันไหนออกไปได้บ้าง หรือจะหาตัวช่วยในวัยทำงานอาจจะซื้อประกันสะสมทรัพย์ เพื่อจะได้มีเงินเก็บระยะยาวอีกทางด้วย
3. อย่าลืมคิดอัตราเงินเฟ้อเข้าไปในแผนเกษียณด้วย
เนื่องจากเงินเฟ้อมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกปี การวางแผนเกษียณจึงจำเป็นต้องคำนวณเงินเฟ้อเข้าไปด้วย โดยสามารถคำนวณได้จากสูตรนี้ เงินเก็บหลังเกษียณเมื่อคิดอัตราเงินเฟ้อ = จำนวนเงินที่คาดว่าจะใช้หลังเกษียณ *(1+อัตราเงินเฟ้อ)^จำนวนปีของอายุขัยที่เหลืออยู่
4. อย่าก่อหนี้ก้อนโต
หากมองจริงๆนับว่ามีไม่น้อยเลยที่เมื่ออายุเข้าสู่วัยเกษียณแล้วยังต้องมีภาระในก่อนผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ทำให้คนวัยเกษียณจำนวนไม่น้อยเลยที่ยังคงต้องทำงานอยู่ เพื่อหาเงินมาจ่ายหนี้ ซึ่งการเตรียมตัวให้ดีก่อนเข้าสู่วัยเกษียณคือการพยายามโปะหนี้ให้หมดก่อนวัยเกษียณ หรือพยายามลดดอกเบี้ยให้ได้มากที่สุด
5. กองทุนรวมสามารถช่วยได้
กองทุนรวมเป็นช่องทางลงทุนที่สามารถเริ่มทำได้ง่ายๆผ่านแอพพลิเคชั่นธนาคาร ซึ่งจะมีทั้งกองทุนรวมในประเทศ กองทุนรวมต่างประเทศ แต่ถ้าหากอยากมองที่กำไรสม่ำเสมอ แนะนำว่าให้ซื้อกองทุนดัชนี เพราะดัชนีของตลาดปรับตัวขึ้นแทบทุกปี ตามเศรษฐกิจที่โตขึ้น
6. ปรับเปลี่ยนรูปแบบการฝากเงิน
ถ้าหากการลงทุนกองทุนรวมยังไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เท่าไร การฝากเงินให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ แม้ผลตอบแทนน้อยกว่า แต่ความเสี่ยงต่ำ อาจตอบโจทย์สำหรับผู้ไม่มีเวลานั่งดูรายละเอียดมากนัก
ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราวางแผนในการเก็บออมเงินสำหรับวัยเกษียณได้ดีมากขึ้น คือเราต้องรู้ว่าค่าใช้จ่ายหลังเกษียณของเรามีอะไรบ้าง โดยดูจากในปัจจุบันเรามีค่าใช้จ่ายมากน้อยเท่าไร เช่น ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเพื่อดำรงชีพ , ค่าใช้จ่ายเพื่อความสะดวกสบายของชีวิต , ค่าใช้จ่ายดูแลบุตรหลาน , ค่ารักษาพยาบาล , ค่าชำระหนี้สินติดค้าง
ในส่วนของเงินออมนอกจากจะวางแผนตามข้อมูลด้านบนแล้ว เงินออมยังมีหลายรูปแบบ ทั้งเงินออมอัตโนมัติ เป็นการออมเงินแบบบังคับ เช่น เงินประกันสังคม , เงินบำเน็จบำนาญราชการ , กองทุนสงเคราะห์เอกชน หรือจะเป็นเงินออมทางเลือก ได้แก่เงินจากผู้ประกอบอาชีพอิสสระ เช่น เงินประกันสังคม ม.40 , กองทุนการออมแห่งชาติ , กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สุดท้ายคือเงินออมเพิ่มพูน เป็นเงินฝากประจำ หรือเงินผลตอบแทนจากการลงทุน
การวางแผนเก็บเงินเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่วัยเกษียณ สามารถปรับเปลี่ยนได้เพื่อความเหมาะสมต่อไลฟ์สไตล์ หัวใจสำคัญคือวินัยในการออมเงิน ลดค่าใช้จ่าย และต่อยอดเงินด้วยรายรับจากดอกเบี้ยเงินฝาก
