หน้าฝนเป็นช่วงที่พื้นมักจะมีความลื่นมากสุด เพราะเกิดจากฝนตกลงมาพื้นมีความชื้น มีน้ำขัง ซึ่งถ้าหากมีผู้สูงอายุอยู่ที่บ้านก็ควรใส่ใจดูแลเป็นพิเศษเพื่อป้องกันเกิดการลื่นล้มแล้วส่งผลกระทบตามมาได้ ครอบครัวหรือคนดูแลควรที่จะศึกษาข้อมูลเพื่อหาวิธีป้องกันให้ดีค่ะ
วิธีป้องกันผู้สูงอายุหกล้มในช่วงหน้าฝน มีดังนี้ค่ะ
- ใส่รองเท้ากันลื่น
เลือกรองเท้าที่มีพื้นกันลื่นและขนาดพอดี ไม่หลวมเกินไป เพื่อป้องกันการลื่นล้มเมื่อเดินบนพื้นเปียก - ใช้ไม้เท้าหรืออุปกรณ์ช่วยเดิน
หากผู้สูงอายุมีปัญหาการทรงตัว ควรให้ใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน เช่น ไม้เท้าหรือวอร์กเกอร์ เพื่อเพิ่มความมั่นคง - ทำทางเดินในบ้านให้ปลอดภัย
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นที่ภายในบ้านและทางเดินปลอดจากสิ่งกีดขวาง หรือน้ำขัง เพื่อป้องกันการลื่นล้ม และพื้นบ้านบริเวณไหนที่มีความลื่นและเลี่ยงลื่นมากขึ้นเมื่อเจอฝน ควรหายางปูพื้น ผ้ายาง มาวางไว้เพื่อกันลื่นได้ - จัดไฟส่องสว่างให้เพียงพอ
ให้แสงสว่างในบ้านชัดเจน ทั้งพื้นห้องน้ำ บันได พื้นบริเวณประตู ทางเดิน เพื่อให้ผู้สูงอายุมองเห็นได้ชัดเจน ว่าพื้นมีน้ำขังหรือเปียกฝนหรือไม่ - ให้ความช่วยเหลือเมื่อออกนอกบ้าน
หากต้องออกนอกบ้าน ควรมีคนคอยช่วยเหลือผู้สูงอายุในการเดินหรือขึ้น-ลงจากยานพาหนะ โดยเฉพาะในช่วงที่พื้นเปียกหรือมีฝนตก
นอกจากนี้พื้นภายในห้องน้ำเป็นบริเวณที่มีความเสี่ยงในการลื่นได้มากที่สุด ภายในห้องน้ำควรจะมีราวจับที่อยู่ในระยะยึดจับได้อย่างทั่วถึง และมีระบบระบายน้ำที่ดี รวมไปถึงห้องน้ำไม่ควรอยู่ไกลจากพื้นที่นอนมากนัก และสวิตช์ไฟต้องอยู่ในตำแหน่งที่เปิดปิดได้สะดวก เพื่อหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวในขณะที่แสงสว่างไม่เพียงพอ
ผู้ดูแลและคนในครอบครัวควรดูแลใส่ใจเรื่องการลุกนั่งของผู้สูงอายุให้ดี การเปลี่ยนอิริยาบถของผู้สูงอายุควรเป็นไปอย่างค่อยๆ เคลื่อนไหวร่างกายช้าๆ เพื่อป้องกันภาวะความดันโลหิตต่ำอย่างเฉียบพลัน ภาวะหน้ามืด เวียนศีรษะ หรือทรงตัวได้ไม่ดี และควรดูแลไปถึงเรื่องอาหารการกิน
ทั้งนี้ในช่วงหน้าฝนก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆที่ควรต้องดูแลระมัดระวังผู้สูงอายุไว้ให้ดี นอกจากเรื่องการป้องกันการหกล้มแล้ว ก็ควรดูแลเรื่องสุขภาพร่างกายด้วยค่ะ
1. ดูแลสุขภาพร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ ป้องกันโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ถ้าหากว่าผู้สูงอายุโดนละอองฝนหรือเปียกฝน ควรรีบเช็ดผมให้แห้ง และควรดูแลเรื่องการฉีดวัคซีนทั้งวัคซีนไข้หวัดใหญ่ วัคซีนป้องกันปอดอักเสบ
2. หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำ เพราะในน้ำขังมีเชื้อโรคมากมาย และการเดินลุยน้ำอาจะเป็นสาเหตุของโรคเท้าเปื่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวานยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะมีความเสี่ยงติดเชื้อลุกลาม หากจำเป็นต้องลุยน้ำให้ใส่รองเท้าบูทยาวป้องกันไว้ก่อน
3. ระมัดระวังไข้เลือดออก เพราะผู้สูงอายุจัดว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงสำหรับโรคไข้เลือกออก ควรดูแลที่อยู่อาศัยไม่ให้มีน้ำขังโดยรอบ หรือใช้ทรายอะเบทโรยตามที่น้ำขัง และฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคไข้เลือดออก
4. หากรู้สึกคันบริเวณผิวหนังส่วนไหนของร่างกาย ไม่ควรเกา เพราะความชื้นและเย็น ทำให้ผิวที่แห้งเกิดอาการคันได้ หากปล่อยให้ผู้สูงอายุเกาก็อาจจะทำให้ผิวหนังติดเชื้อ ควรดูแลเรื่องความสะอาดให้ดีค่ะ
หน้าฝนเป็นฤดูที่มีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างทั้งเรื่องสุขภาพ และความปลอดภัยรอบด้าน ดังนั้น ผู้ดูแลและคนในครอบครัวควรใส่ใจดูแลเป็นพิเศษเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะตามมาได้ค่ะ