การขับรถให้ปลอดภัยนอกจากจะเข้าใจเรื่องกฏจราจรแล้ว ต้องรวมไปถึงสภาพร่างกาย สายตา ที่เหมาะสมสำหรับการขับรถ ผู้สูงอายุเมื่ออายุที่มากขึ้นเรื่อยๆก็อาจจะทำให้ร่างกายทรุดโทรมลง ก่อนจะขับรถไปไหนมาไหนเองก็ควรที่จะตรวจเช็คและดูความพร้อมของตัวเองด้วยค่ะ
1. ตรวจเช็คสายตาและหูเป็นประจำ
เพราะการขับรถต้องใช้สายตามองเป็นหลัก และใช้หูในการฟังเสียง เมื่ออายุมากขึ้นประสาทสัมผัสทางตาและหูอาจจะช้าลง ดังนั้นควรที่จะเช็คโรคทางสายตาในผู้สูงอายุ เช่น ต้อกระจก ต้อหิน หรือโรคจอประสาทตาเสื่อม รวมไปถึงเช็คการได้ยิน เพราะหากมีเสียงบีบแตรบนท้องถนนก็จะได้ฟังได้ชัดเจน และขับรถได้ปลอดภัยมากขึ้น
2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายจะช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงและมีการตอบสนองของร่างกายที่ดีขึ้น อาจจะออกกำลังกายแบบง่ายๆที่ทำได้ในชีวิตประจำวัน เช่น การเดินบ่อยๆ การออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อให้กับร่างกาย
3. เลือกเวลาขับรถที่มองเห็นได้ชัดเจน
หลีกเลี่ยงการขับรถในเวลากลางคืน เพราะในเวลากลางวันมองเห็นทางได้อย่างชัดเจน เลือกขับในถนนที่มีรถไม่มากนัก ทางที่คุ้นเคย และไม่ควรขับรถในช่วงเวลาที่อารมณ์โกรธมากๆ หรือร่างกายเหนื่อยล้าเกินไป
4. วางแผนการเดินทาง
หากจะต้องขับรถไปไหน ควรวางแผนศึกษาเส้นทาง และใช้ GPS เป็นตัวช่วยในการเดินทาง เพื่อทำให้ขับรถได้สะดวกสบายมากขึ้น
5. รู้ลิมิตของตัวเอง
การขับรถให้ปลอดภัยเราก็ควรรู้สมรรถภาพในการขับรถของเราเองว่าไหวที่เท่าไร และรู้ว่าเมื่อไหร่ร่างกายของตนเองกำลังแสดงอาการผิดปกติ และเลือกใช้สิ่งที่ช่วยให้การขับขี่ง่ายขึ้น
6. อัพเดทสกิลการขับรถ
อาจจะไปเรียนขับรถอีกครั้ง เพื่อเรียนรู้และอัพเดทกฏหมายการขับรถไปด้วย
ทั้งนี้ข้อสำคัญคือสภาพร่างกายของผู้สูงอายุ ถ้าหากว่าตรวจเช็คร่างกายแล้วมีอาการของโรคดังนี้ ก็ควรหลีกเลี่ยงการขับรถเช่นกัน
- โรคตา อย่างเช่น ต้อหิน ต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม ทำให้เวลาขับรถในตอนกลางคืนมองไม่ชัด ผู้ที่เป็นต้อหินอาจมีลานสายตาที่แคบทำให้มองเห็นภาพส่วนรอบได้ไม่ดี ผู้ป่วยโรคต้อหินจะมองเห็นแสงไฟบอกทาง ไฟหน้ารถพร่าได้
- โรคทางสมอง ทั้งอาการหลงลืม ภาวะสมองเสื่อม อาจจะทำให้ขับรถหลงทาง เลี้ยวผิดเลี้ยวถูก มีการตัดสินใจหรือสมาธิที่ไม่ดี รวมไปถึงอาการของแขนขาที่ไม่มีแรงขับรถ อาจจะเหยียบเบรกเหยียบคันเร่งได้ไม่ดีเท่าไร รวมไปถึงความไวของสมองที่ช้าลงด้วย อาการทางสมองเหล่านี้ควรหลีกเลี่ยงการขับรถเป็นอย่างยิ่ง